วิธีทำ seo และเทคนิคการทำ SEO โปรโมทเว็บไซต์และ blog ให้ติดหน้าแรก Google

การยิงbacklink ใส่แฟนเพจบนFackbook

02:12 | การยิงbacklink ใส่แฟนเพจบนFackbook

สิ่งที่ผมจะมาแนะนำคือ การยิงbacklink ใส่แฟนเพจบนFackbook บางคนเคยอัด backlink มาแล้ว แต่อัดใส่บนเว็บไซต์ทั่วไป เช่น เว็บประกาศฟรี submit ต่างๆ ซึ่งผมลองทำ โอกาสล่วงก็มี

ผมจะเปรียบเทียบข้อดีข้อด้อยให้ดู

1. เว็บประกาศฟรี เว็บsubmit ต่างๆย่อมมีเนื้อหาจากเว็บสายดำสายขาว ปะปนกัน บางเว็บอาจตกหลุมไปแล้ว แน่นอนว่า ถ้าเว็บมีถูกยิงbacklinkจากเว็บที่ตกหลุม หรือเว็บสายดำ ย่อมไม่เป็นผลดีต่อเราแน่นอน เราอาจตกหลุม ไปเลยก็ได้ เว็บเหล่านี้มีอะไรแอบแฝงเยอะ เขาอาจมีเนื้อหาที่เป็นเว็บสายดำอยู่ แต่ตรงกันข้ามแฟนเพจต่างๆส่วนมากเป็นสายขาว ยิ่งแฟนเพจดังๆแน่นอนสายขาวแน่นอน เช่น ไม่มีเนื้อหา18+ เป็นต้น ถ้าไม่ขาว คงโดนแบนไปแล้วแน่ๆ เห็นกันบ่อยที่อยู่ดีๆแฟนเพจก็หายไป แต่แฟนเพจดังๆที่ทำสายขาวก็อยู่ยงคงกระพัน เพราะfacebookก็เข้มงวดอยู่แล้ว

2. เว็บที่เราไปโพสตามที่ต่างๆ หายากที่จะได้เว็บที่prสูงๆ ยิ่งPR5 ขึ้นไป หายากมากๆ บางเว็บ ฉลาด คิดค่าบริการใส่ backlink ด้วย แต่ backlink จากแฟนเพจ ที่ผมจะนำมาให้ มีPR5ขึ้น จนถึงPR8 โดยเฉพาะPR8 บางคนไม่เคยได้สัมผัส มีความฝันอยากจะเอาลิ้งค์เว็บเราไปสร้าง backlink บนเว็บ PR7 PR8 มากๆ ซึ่งพวกรับจ้างทำ seo หลายๆเจ้ารู้แต่กั๊กไว้

3. แฟนเพจที่มีPRสูงค่อนข้างมีความปลอดภัย ไม่ต้องกลัวว่าจะตกหลุม เพราะสายขาวๆล้วนๆ

#แฟนเพจมีคุณภาพและน่าเชื่อถือ ซึ่งต่างจากเว็บไซต์ให้โพสฟรีประกาศฟรีทั่วไป ที่หน้าบ้านหรือหน้าเว็บไซต์มีความน่าเชื่อถือ แต่หลังบ้าน (สิ่งที่แอบแฝง) มันมีไรบ้างก็ไม่รู้ ซึ่งเสี่ยงมากๆ ถึงขนาคต้องขุดหลุมรอไว้เลย

ผลการทดลองโพสลิ้งค์ เพื่อสร้าง backlink บนแฟนเพจดังๆคุณภาพPRสูงๆ

เราจะใช้แฟนเพจที่มีPR5 ขึ้นไป แฟนเพจที่ผมแนะนำนั้นส่วนมากจะเป็นPR5-PR8 เยอะมากนะครับ

คำเตือน เราควรโพสเพียง เพจละ1ลิ้งค์เท่านั้น แล้วก็วันละเพียง3เพจ อย่าเกินจากนั้น เพราะfacebook อาจจะมองว่าเราโพสลิ้งค์spam จะทำให้ลิ้งค์นั้นถุกระงับได้ ซึ่งผมทดลองแล้ว โพสวันละ3เพจ ยังปลอดภัยดี

-- ไม่ต้องกลัวว่าเจ้าของแฟนเพจจะมาลบ เพราะแฟนเพจเหล่านี้คอมเม้นท์ค่อนข้างเยอะ เขาจะไม่เห็นลิ้งค์ที่เราโพส เพราะไม่มีคนสนใจ หรือ เม้นท์ในโพสเก่าๆด้านหลังที่ไม่มีคนสนใจแล้ว บางเพจคนเยอะเราโพสลงไทม์ไลน์แฟนเพจเขาเลยก็ได้

การทดลองทำ

จากการทดสอบ คีย์แข็งๆ ซึ่งมีผลการค้นหาประมาณ หลายล้าน รายการ ต้องใช้ความอดทน กว่า googleจะประมวลผลอันดับ

5วันแรก เว็บไซต์เรา index ติดgoogleแล้ว แต่เปิดหานานมาก จนไปพบว่าติดหน้า15-20 ขึ้นลงไปมาระหว่างหน้า15-20 อาจเป็นเพราะยังใหม่อยู่ backlink ยังไม่แข็ง

ผ่านไป10-15วัน ผมอัด backlink ไปเกือบ45ลิ้งค์ พบว่า ติดอยู่อันล่างๆของหน้า7แล้ว เริ่มดีใจแล้ว มีหวังละ

แต่พอครบ20วันผมเริ่มไม่แน่ใจ กลัวมันจะตกถ้าอัดไปอีกเยอะๆ ผมลองพัก3วัน ปรากฎว่าช่วงพักในวันที่2 จากที่อยู่ล่างๆของหน้า7 ขึ้นมาอยู่กลางๆของหน้า7แล้ว โทรบอกเพื่อนละ เพราะตอนแรกแนะนำเพื่อนไป เพื่อนบอกว่า ขอดูก่อน เพื่อนเริ่มประหลาดใจนิดๆ

พอพักครบ3วัน

เริ่มอัดbacklinkต่อในวันที่24 (เริ่มต้นในสัปดาห์ต่อไป) อัดเต็มที่วันละ5ลิ้งค์ อันดับก็ยังนิ่งๆ

ผ่านไป อีก3วัน คือวันที่27นั่นเอง การะบาทในปฎิทินไว้เลย ปรากฎว่า ตกไป หน้า9 ปรึกษาเพื่อน เพื่อนบอกว่าน่าจะ ทำแล้วหยุด ทำแล้วหยุด แบบที่ทำตอนแรก

ก็เลยพักอีก3วัน นั่นไง วันที่30 ขึ้นแบบก้าวกระโดดมาหน้า5แล้ว โทรหาเพื่อนอีกที เพื่อนบอกว่า ท๊อปคุณทำสำเร็จแล้ว ผมก็เลย อัด3วัน วันละ5เพจ แล้วพัก3วัน ทำมาเรื่อยๆ ประมาณ40กว่าวัน ติดหน้า2-3 ขึ้นลง ขึ้นลง แต่ไม่เกินหน้า3 อาจเป็๋นเพราะคู่แข่งเราก็แข็ง เริ่มมีการต่อสู้กับเจ้าที่ซะแล้ว พอครบ40วัน ลิ้งค์แฟนเพจที่PRสูงที่ผมหาไว้มาเริ่มหมดแล้ว ก็เลยอัดแบบเบาๆ วันละ1เพจ เกือบ2เดือน บรรลุเลย

ขึ้นหน้า1 อันดับ5 แต่ก็มีตกไปหน้า2บ้าง แต่ไม่เกินหน้า2 เพราะเรายังแข่งขันกับเขาอยู่ ใช่ว่าเขาจะอ่อนแอ เขาแข็งมากๆ แน่นอน คีย์ที่มีการค้นหาเกือบ10ล้านรายการ มันแข็งจริงๆ

ตอนหลังก็หาแฟนเพจPR4มาเพิ่ม ซึ่งหาไม่ยาก วันละ1-2เพจ ก็ขึ้นๆลงๆ แต่ก็มีวันที่เซอร์ไพร้ขึ้นอันดับ2เลย หลังจากติดอันดับ2ผมก็หยุด บางวันก็ขึ้นมาที่2อีกครั้ง 3บ้าง บางวันก็ตกไปล่างๆนานหน่อย แต่ก็ไปๆมาๆหน้า1-2 ผมเลยหยุดเพราะอันดับน่าจะเสถียรแล้ว ไม่เกินหน้า2 แต่บางวันตกไปหน้า3แปบเดียวก็มีนะ บางสัปดาห์ค้างอยู่อันดับ5นานมากๆ คนเข้าเว็บเพียบเลย หลังจากนั้นก็หันมาทำเว็บไซต์ให้มีคุณภาพแทน เพราะbacklinkเราก็เยอะแล้วอิ่มตัวละ บอทวิ่งชนกันหัวแตกเลยในเว็บ จะทำแผลให้มันยังไงดีหนอ 55555+ ถ้าเป็นคีย์เบาๆไม่น่ายากเลย

*** สละเวลาวันละ10นาที แค่นี้เองง่ายๆดีกว่าไปโพสตามเว็บซับมิทต่างๆเสียเวลาสมัครสมาชิกเว็บ บางเว็บต้องรอแอดมินยืนยันโพสอีก และยังเสี่ยงอีกว่าเว็บนั้นกึ่งสายดำเปล่า แนะนำแฟนเพจนี่แหละปลอดภัยและแรงที่สุดแล้ว

หมายเหตุ แนะนำให้อัด backlink 3วันแล้ว พัก3วัน แล้วที่สำคัญ ทุกๆวันที่เราทำseo ควรอัพบทความในเว็บไซต์อยู่เสมอๆ ด้วย เนื้อหาควรสร้างสรรค์ขึ้นเอง อย่าลอกใครเขามา เพราะgoogleไม่ปลื้ม

เทคนิค 75 วิธีโปรโมทเวบให้ได้ผล

22:18 |

หลังจากที่เวบไซต์ของคุณมีความพร้อมแล้ว คุณก็สามารถเริ่มการโปรโมทเวบไซต์ของคุณได้ การโปรโมทเวบไซต์ของคุณมีหลายวิธี ลองเลือกวิธีที่เหมาะสมกับเวบไซต์ของคุณที่สุดครับ

1.กลยุทธ์ เพิ่มคนเข้าเวบด้วย "เสิร์ช เอ็นจิ้น" (Search Engine Strategies) คงต้องยอมรับว่าเกือบ 80% ของคนใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก มักใช้เสิร์ช เอ็นจิ้น ในการค้นหาเวบไซต์ที่ตัวเองต้องการ ดังนั้นการนำเวบไซต์ของคุณเข้าไปติดอันดับในเสิร์ช เอ็นจิ้น จึงเป็นวิธีที่คุณหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากคุณต้องการจะให้เวบไซต์ของคุณ เป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว

ดัง นั้นการปรับเวบไซต์ของคุณให้เสิร์ช เอ็นจิ้น รู้จัก จึงเป็นศาสตร์และเทคนิคที่คุณต้องคำนึง ตั้งแต่คุณวางแผนเริ่มต้นสร้างเวบไซต์ หรือสำหรับบางท่านที่มีเวบไซต์อยู่แล้ว ก็ควรที่จะวางแผนปรับเวบไซต์ของคุณให้เสิร์ช เอ็นจิ้น รู้จักได้โดยเร็ว มีตัวอย่างเวบไซต์เพื่อนผมเวบหนึ่ง หลังจากที่ทำเสร็จแล้ว ไม่ได้ทำการตลาดอะไรเลย นอกเหนือจากการปรับแต่งเวบไซต์ของเค้าให้ เสิร์ช เอ็นจิ้นรู้จัก แต่ภายหลังจากนั้น เวบไซต์แห่งนั้นก็มีรายได้จากการขายสินค้าได้อย่างต่อเนื่องทุกวัน โดยที่เค้าไม่ต้องทำการตลาดอะไรอีกเลย เพราะเสิร์ช เอ็นจิ้น ได้รู้จักเวบไซต์ของเค้าแล้ว และส่งคนเข้ามาที่เวบไซต์ของเค้าอย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย

2.การเพิ่มลิงค์ เพิ่มโอกาสคนรู้จักเวบไซต์คุณ (Linking Strategies) การแลกลิงค์กับเวบไซต์อื่นๆ จะช่วยนอกจากจะทำให้คนอื่นๆ มีโอกาสเข้ามาที่เวบไซต์ของคุณได้จากเวบเหล่านั้นแล้ว คุณยังสามารถเพิ่มจำนวน "เพจแรงค์" (Page Rank) ซึ่งเป็นเครื่องมือตัวหนึ่งที่จะช่วยทำให้อันดับของเวบไซต์ของคุณดีกว่าเวบ อื่นๆ เมื่อเวบไซต์ของคุณถูกค้นหาผ่าน เสิร์ช เอ็นจิ้น

โดยวิธีการที่จะเพิ่มลิงค์ให้กับเวบไซต์ของ คุณ คุณควรไปเพิ่มชื่อเวบไซต์ของคุณที่บริการเวบไดเร็คทอรี่ใหญ่ของโลกเช่น www.DMOZ.com (เวบไซต์ไดเร็คทอรี่ที่ใช้คนจัดการ ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก), www.Yahoo.com , www.About.com ถ้าเป็นของไทยก็ Sanook.com ยิ่งถ้าหากเวบไซต์ของคุณสามารถเข้าไปติดอยู่ในเวบไดเร็คทอรี่เหล่านี้ได้ แล้วละก็ โอกาสที่เสิร์ช เอ็นจิ้นต่างๆ จะหาเวบไซต์ของคุณเจอ ก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น หรือ อีกวิธีหนึ่งง่ายๆ ที่คุณจะสามารถเพิ่มลิงค์ของเวบไซต์ของคุณ คือการขอแลกลิงค์กับเวบไซต์ต่างๆ ที่คุณอาจจะลองติดต่อขอแลกเปลี่ยนกับเวบไซต์เหล่านั้น นี่อาจจะเป็นวิธีง่ายๆ ที่คุณเริ่มต้นได้ทันที

3. การตลาดผ่านอีเมลช่องทางเข้าถึงลูกค้าที่ต้องใช้ให้ถูก (E-Mail Strategies) การตลาดผ่านอีเมล ไม่ใช่แค่การที่คุณไปซื้อรายชื่อคนมาแล้วส่งข้อมูลไปยังคนเหล่านี้โดยที่คุณ ไม่ได้เคยรู้จัก หรือได้รับอนุญาตจากคนเหล่านั้นเลย ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการทำ "สแปม" ซึ่งไม่ใช่การตลาดผ่านอีเมลเลย แต่เป็นการสร้างความน่ารำคาญให้แก่ผู้รับมากกว่า ดังนั้นการสร้างระบบการเก็บอีเมลของลูกค้าของคุณเอง หรือกลุ่มลูกค้าที่อาจจะสนใจรับข่าวสารจาก เวบไซต์ของคุณ เป็นช่องทางที่ดีที่สุดในการใช้เป็นแหล่งข้อมูลในการส่งข่าวสารของคุณผ่านอี เมลไปยังกลุ่มคนเหล่านั้น แต่หากในตอนเริ่มต้น ซึ่งคุณยังไม่มีข้อมูลของลูกค้าของคุณเลย คุณอาจจะใช้วิธีไปใช้เช่ารายชื่ออีเมลจากผู้ให้บริการเช่ารายชื่ออีเมล เพื่อส่งไปหาคนเหล่านั้นด้วยความยินยอมจากผู้รับก็ได้ (ลองค้นหาผู้ให้บริการเช่ารายชื่ออีเมลจาก Google.com โดยใช้คีย์เวิร์ดคำว่า "list broker")

4. วิธีเลือกใช้สื่อเก่า แต่ได้ผลแยบยลนัก (Traditional Strategies) การใส่ชื่อเวบไซต์ในสื่อต่างๆ ที่ไม่ใช่สื่อออนไลน์ (offline) อาจจะช่วยทำให้คนจดจำและดึงคนเข้ามาที่เวบไซต์ของคุณได้ เช่น การใส่ชื่อเวบไซต์ลงในนามบัตร, โบรชัวร์, ป้ายหน้าร้าน, สติกเกอร์ร้านค้า, ถุงใส่สินค้า, เสื้อหรือหมวกของพนักงาน, ป้ายสินค้า หรือแม้แต่การใส่ชื่อเวบไว้ที่ตัวสินค้าเลยก็ได้ ทั้งนี้เพื่อให้คนสามารถกลับมาที่เวบไซต์ของคุณได้อีกเมื่อเค้าเห็นชื่อ เวบไซต์ของคุณจากสิ่งเหล่านี้

การเลือกใช้สื่อที่ไม่ใช่สื่อออนไลน์ อาจจะช่วยทำให้คนรับรู้และรู้จักเวบไซต์ของคุณเพิ่มมากขึ้นได้ เช่น ลงในป้ายโฆษณาต่างๆ, ลงในหนังสือ, จดหมาย, โปสการ์ด, วิทยุ หรือแม้แต่ทีวี แต่สื่อจำพวกนี้ มักจะมีค่าใช้จ่ายราคาแพง เว้นแต่คุณได้ใช้สื่อเหล่านี้อยู่แล้ว เพียงแต่เพิ่มชื่อเวบไซต์ลงไปในสื่อเหล่านี้เพิ่มเติม เพื่อให้คนรับสื่อสามารถเข้าถึงข้อมูลของคุณได้อีกช่องทาง

5.ใช้เงินลงโฆษณา (Paid Advertising Strategies) วิธีนี้จะเป็นวิธีที่ได้ผลโดยเร็ว และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายตรง และรวดเร็ว คือการซื้อสื่อโฆษณาในสื่อที่กลุ่มเป้าหมายของคุณอยู่ เช่น ซื้อตำแหน่งโฆษณารูปแบบตัวหนังสือ หรือแถบโฆษณา (Banner) ในเวบไซต์ หรือการใช้รูปแบบของการทำแนะนำและบอกต่อในการขาย เพื่อที่จะได้ค่าคอมมิชชั่น (Affiliate Program) ซึ่งวิธีนี้จะเป็นวิธีที่คุณจะสามารถได้ผลตอบแทนกลับมาที่แน่นอน และเช่นกันกับผู้ที่แนะนำบริการ ก็จะได้ค่าคอมมิชชั่นจากคุณเช่นกัน

6.อีกหลากหลายวิธีที่น่าลอง (Miscellaneous Strategies) วิธีอื่นๆ ที่น่าลองใช้เช่น การโปรโมทเวบไซต์ของคุณในเวบบอร์ดต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไป ซึ่งต้องพยายามหาวิธีที่ไปลงโฆษณาตามเวบบอร์ดต่างๆ ในรูปแบบที่น่าสนใจ และเคารพต่อเวบบอร์ดที่เราไปลงด้วย ไม่ใช่ไปลงซะเวบบอร์ดเค้ามีแต่โฆษณาเต็มไปหมด

หรืออาจจะใช้วิธีแจก ของ หรือมีบริการฟรีภายในเวบไซต์ของคุณ เพราะปกติคนชอบของฟรีอยู่แล้ว ดังนั้นเวบไซต์ของคุณจะบอกปากต่อปากไปเรื่อยๆ เช่น แจกฟรีอีเมล, บริการดูดวง, แจกตัวอย่างสินค้าฟรี เป็นต้น
จากวิธีทั้งหมดที่แนะนำมา ผมอยากให้คุณลองเลือกดู และลองนำวิธีต่างๆ นำไปใช้กับเวบไซต์ของคุณดูว่า วิธีไหนที่จะเหมาะกับเวบไซต์หรือธุรกิจของคุณ ซึ่งการโปรโมทเวบไซต์ บางรูปแบบ ก็อาจจะเหมาะสมกับบางธุรกิจ ซึ่งทั้งนี้ยังไม่มีหลักตายตัวที่แน่นอนว่า วิธีไหนจะให้ผลดีที่สุดสำหรับแต่เวบไซต์ อย่างนี้ต้องลองแล้วละครับ....!

เทคนิค75 วิธีโปรโมทโมทเว็บเพื่อเรียกคนดู

เว็บไซต์ของคุณต่อให้ดีสักแค่ไหน คงจะไม่มีประโยชน์ ถ้าขาดการโปรโมทที่ดี เทคนิคต่างๆต่อไปนี้ ลองนำไปใช้ดู นะครับ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ครับ

1. ถ้าคุณเพิ่งทำเวบใหม่สดๆเลย ก็เขียนบทความอะไรซักหน่อย แล้วไปส่งที่ Digg, Reddit, และ Now Public
2. สร้าง Yahoo Group เกี่ยวกับเรื่องของ เวบเรา
3. สมัคร MySpace แล้วใช้มันช่วยโปรโมท
4. บุ๊คมาร์คเวบเราที่ Del.icio.us และถ้าคุณมีกึ๋นซักหน่อยนะ ก็ใส่ปุ่ม Del.icio.us ไว้ในเวบของคุณด้วย
5. สมัคร Technorati แล้วก็ "claim" Blog ของคุณซะ (อย่าลืมใส่ปุ่ม ไว้ที่เวบ)
6. submit เวบของคุณที่ directories ที่เป็น seach engine friendly แบบฟรีๆ ก็มีเยอะแยะ เช่น Info Vilesilencer
7. ทำแบบสำรวจ นี่เป็นวิธีที่ดีที่จะโปรโมทแบบ offline (มีใครเคยทำมั้ยง่ะ - -)
8. ไปลงโฆษณาฟรีสำหรับบริษัทของคุณที่ Gumtree
9. ใช้ RSS feeds
10. submit RSS feeds ของเราตาม FeedBurner, Squidoo, Feedboy, Jordomedia, FeedBomb, FeedCat, rssmad, feedirectory, และ Feedboy
11. เขียนบทความที่เกี่ยวกับเวบของคุณ แล้วส่งไปตาม article sites
12. สมัคร StumbleUpon แล้วเรียกเพื่อนๆมาช่วย Stumble
13. สร้างหน้า 404 ของตัวเองไว้ เผื่อว่าคนเข้ามาเจอ error ก็จะ redirect ไปที่อื่นๆที่ดีๆ
14. สร้าง 301 redirect เพื่อจะ redicrect traffic ของคุณจาก non-www มาที่ www
15. ใส่ลิ้งของเวบคุณไว้ใน signature ของเวบบอร์ดที่คุณเป็นสมาชิก
16. บอกเพื่อนๆเกี่ยวกับเวบของคุณ (มันเป็นหารโฆษณาฟรีๆน่ะ)
17. ตรวจคำผิดในเวบของคุณด้วย!
18. เช็คเวบของคุณ browser หลายๆอัน
19. ซื้อโฮสต์ที่ดีพอ ไม่มีใครชอบเวบที่เป็นเต่าคลาน
20. ไม่ต้องกังวลกับ PageRank ไปหาทางโปรโมทดีกว่านะ เดี๋ยว PageRank มันก็ดีตามเอง
21. แจกของฟรี !! คนส่วนมากจะบอกต่อ เมื่อมีของฟรี
22. บอกเพื่อนบ้านของคุณ
23. บอกวิธีที่จะติดต่อคุณให้มากที่สุด msn email yahoo skype เบอร์โทร ที่อยู่
24. ลงโฆษณากับ Craigslist มันฟรี และก็ดีใช้ได้
25. อย่าใช้ Frames
26. Submit เวบที่ DMOZ.org มันอาจจะต้องใช้เวลาซักหน่อย แต่ก็คุ้ม
27. สร้าง Site Map ให้กับเวบของคุณ แล้วส่งให้ Google
28. ทำเสื้อขึ้นสกรีน URL เวบคุณลงไป แล้วก้ใส่มันบ่อยๆด้วย (อืม..คิดได้เนอะ - -")
29. เอาไปให้สาวสวยหุ่นเร้าใจใส่ด้วยซักตัว *-*
30. สมัคร Affiliate program เพื่อขายสินค้าของคุณ หรือว่าถ้าคุณเป็น Publisher ก็โกยเงินกัน!!
31. ในหน้า contact ถามด้วยว่า คุณสนใจจะรับ Newsletter มั้ย
32. ส่ง Newsletter !!
33. เข้าร่วมสัมมนาคนทำเวบ คุณอาจจะเรียนรู้อะไรใหม่ๆก็ได้
34. หา Blog ดีๆ ดังๆ แล้วก็ไปตอบคอมเม้นไว้ (ใส่ลิ้งเวบคุณด้วยล่ะ)
35. อย่าจ้างคนให้ submit search engines ให้ เสียตังค์เปล่าๆ เพราะอันที่ดังๆมีแค่ Google 50% Yahoo 25% และ MSN 10%
36. ส่งคลิบเข้าพร้อมกับชื่อเวบคุณในคลิบ ที่ YouTube กับ Google Video
37. แจกฟรี e-book แล้วเวบคุณจะเป็นที่ฮือฮา
38. แจก Wordpress Theme, Blogger Theme, หรือ phpLD themes
39. ถ้าคุณขายของที่มีโฆษณาในทีวี เขียนในเวบคุณด้วยว่า "แบบที่เห็นในทีวี"
40. หลีกเลี่ยงเทคโนโลยีที่ไฮโซเกิน เช่น Java หรือ Active x
41. แจกของให้โหลดได้ ระวังลิขสิทธิ์ด้วย
42. เรียนรู้ CSS
43. ตอบคอมเม้น ยิ่งถ้าเป็น Blog ตอบบ่อยๆ
44. ขอให้เวบอื่น หรือ Blogger คนอื่นๆ ช่วย review เวบคุณ หรือว่า สินค้าก็ได้ (แลกกัน review ก็ดี)
45. ใช้ชื่อ page ที่มีความหมาย ไม่ใช่ www.yourdomain.com/pgInfoPages.cfm?cx=50799399822B393BBF95289295A3A10A4F
46. ถ้าคุณจำเป็นจะต้องมี Flash ที่หน้าแรก อย่าลืมใส่ปุ่ม skip ด้วย
47. บอกหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น หรือ วารสารประจำโรงเรียนเกี่ยวกับเวบของคุณ บางทีถ้าเค้าไม่มีเรื่องจะเขียน หน้าของคุณอาจจะไปโผล่ในนั้นก็ได้
48. จงดังในหมู่คนที่เขียนเรื่องเดียวกัน
49. บริจาคเพื่อการกุศล แล้วส่วนมากเค้าจะใส่ลิ้งแบคให้คุณ
50. ปฏิบัติตามกฏของ W3C standards มันจะช่วยให้คุณอยู่รอดได้ในระยะยาว
51. ทีมกีฬาในโรงเรียน หรือในชุมชน ให้โอกาสคุณเป็น sponsors ในราคาถูกและดี
52. โปรโมทเวบตามบอร์ดต่างๆ แต่อย่าสแปม
53. ขอให้ Blogger เขียนเกี่ยวกับเวบของคุณ โดยแลกกับลิ้งแบค
54. จัดการประกวดแข่งขันขึ้นมาในเวบ
55. ใส่ปุ่ม "ส่งต่อให้เพื่อน"
56. มี site map ในเวบของคุณ เพื่อช่วยผู้เข้าชม และsearch engine
57. ตั้งชื่อที่มีคีย์เวิร์ดตรงๆ ทั้งผู้อ่านและ search engine ชอบ
58. ใส่ปุ่ม FeedBurner ในเวบด้วย คนอ่านจะได้สมัครได้ง่ายๆ
59. Adwords เป็นทางเลือกที่ดี ถ้าคุณใช้มันเป็น
60. ใส่ About Me ใน Blog ผู้อ่านจะรู้สึกว่ามี'คน'ที่กำลังสื่อสารกับเค้า
61. สร้างหน้าเวบ แบนเนอ และโลโก้ไว้บนเวบ เพื่อว่าใครจะเอาไปตีพิมพ์ หรือเอาไปแปะในเวบ
62. ใส่ลิ้งมาที่เวบคุณจาก ebay profile
63. ขอให้เพื่อนของคุณช่วยวิจารณ์เวบแบบตรงๆ
64. E-books ที่มี reseller rights เป็นของแจกที่ดีอย่างนึงสำหรับเวบคุณ
65. submit รูปที่ Flikr
66. แชร์ banner ที่ เวบแลกเปลี่ยน banner
67. ตอบอีเมลล์ของลูกค้าให้เร็ว ไม่มีใครชอบรอ 3-4 วันกว่าจะได้รับคำตอบ
68. Keep It Simple Stupid (KISS) ใช้ CSS ในการวาง layout และ html text อย่าลวดลายมาก
69. อย่าใส่รูปเยอะมากจนเกินไป จะทำให้โหลดช้า
70. ถ้าคุณคิดว่าจะ submit เยอะมากๆ สร้างเมลล์อันใหม่มาเพื่อการนี้ แล้วทิ้งมันไปซะเพื่อลดการ สแปม71. ใส่ Favicon ให้เวบคุณ จะได้โดดเด่นเวลา Bookmark
72. เข้า Yahoo answer แล้วตอบคำถาม พร้อมกับใส่เวบของคุณเปน source
73. อย่าซื้อ traffic มันจะมาแค่วูบเดียว แล้วจากไป
74. ทำความรู้จักกับคนที่อยู่ในวงการเดียวกัน เข้า community เป็นต้น
75. เขียนบทความที่จะมีคนอยากลิ้งถึงมากๆ เช่น บทความนี้ไง

อีกวิธีที่รวบรวมมา และอยากเอามาแนะนำกัน

1. Add ทุก Search Engine ทั้งไทย-เทศ
2. ใช้บริการ Webring คือการลิ้งกันเป็นวงแหวนสำหรับเวบที่มีเนื้อหาคล้ายกันที่ www.webring.org
3. หมั่นบันทึก ตามเวบบอร์ดต่างๆ เช่น แสนสุข , สนุก , หรรษา , พันธ์ทิพย์ จะทำให้คนเห็นมากขึ้น
4. แลกลิ้งกับเวบไซด์อื่นๆ ที่มีเนื้อหาคล้ายๆ กัน หรือใช้บริการ link exchange เช่น www.linkexchange.com
5. ลงโฆษณาตามเวบไซด์ดังๆ
6. แนะนำเวบคุณกับไทยรัฐ เดลิเวบ
7. ประชาสัมพันธ์ผ่านหน้า AddUrl ตามเวบไซด์ต่างๆ ที่พบ
8. สมัครจัดอันดับเวบไซด์กับเวบไซด์ดัง ๆ ของไทย
9. ประชาสัมพันธ์ผ่าน News Group หรือติดประกาศตามป้ายรถเมล์
10.แจกสติ๊กเกอร์ หรือเสื้อที่มี url ของคุณกับผู้ใช้ หรือแนะนำเวบคุณกับวารสาร
11. สมัครและโพสประกาศตามเว็บ social network เช่น twitter facebook เป็นต้น พวกนี้ เว็บจะได้รู้จักไว้และมีคนช่วยอีกหลายแรง

ที่มา : กรุงเทพบิธวีค และ Google และพันทิป

SEO TOOLS เครื่องมือที่รวบรวมมาให้เว็บมาสเตอร์

21:14 |

SEO TOOLS เครื่องมือที่รวบรวมมาให้เว็บมาสเตอร์ สามารถปรับแก้ เพื่อให้อันดับเว็บไซต์ติดอยู่หน้าแรกๆใน Search Engine

Similar Page Checker

เครื่องมือค้นหาที่เป็นที่รู้จักกันเพื่อลงโทษเว็บไซต์ที่มีซ้ำกัน / เนื้อหาคล้ายกัน เนื้อหาของคุณอาจจะคล้ายกับเว็บไซต์อื่น ๆ บนอินเทอร์เน็ตหรือหน้าจากภายในเว็บไซต์ของคุณเองอาจจะคล้าย ๆ กัน เครื่องมือนี้ช่วยให้คุณสามารถกำหนดอัตราร้อยละของความคล้ายคลึงกันระหว่างสองหน้า

Search Engine Spider Simulator

เครื่องมือนี้จะเลียนแบบการรวบรวมเครื่องมือค้นหาโดยการแสดงเนื้อหาของหน้าเว็บว่าวิธีการเครื่องมือค้นหาจะเห็นมัน นอกจากนี้ยังแสดงการเชื่อมโยงที่เครื่องมือค้นหาจะทำตาม (การรวบรวมข้อมูล) เมื่อมันเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซด์

Backlink Anchor Text Analysis

เครื่องมือนี้ช่วยให้คุณตรวจสอบข้อความลิงค์ที่ใช้โดยย้อนกลับของคุณเชื่อมโยงไปยัง wesbite ของคุณ

Backlink Builder

เครื่องมือนี้จะช่วยให้คุณสร้างจำนวนมากลิงก์ย้อนกลับที่มีคุณภาพ จะค้นหาสำหรับเว็บไซต์ของชุดรูปแบบที่คุณระบุที่มี keyphrases เช่น "เพิ่มลิงก์", "เพิ่มเว็บไซต์", "เพิ่ม URL", "เพิ่ม URL", "ส่ง URL" ฯลฯ ส่วนใหญ่ของผลอาจจะลิงก์ย้อนกลับที่มีศักยภาพ ลิงค์ข้อความที่มีความสำคัญสำหรับการจัดอันดับดีในเครื่องมือค้นหา

Backlink Summary

เครื่องมือนี้จะช่วยให้คุณสรุปของลิงก์ย้อนกลับของคู่แข่งของคุณ

Keyword Density Checker

เครื่องมือนี้จะรวบรวมข้อมูล URL ที่ระบุ, สารสกัดจากข้อความเป็นเครื่องมือค้นหาจะลบคำหยุดทั่วไปและแสดงความหนาแน่นของคำหลักของคุณ

Redirect Check เปลี่ยนเส้นทางการตรวจสอบ

มันเป็นการนำเข้าเครื่องมือค้นหาที่มีความสามารถที่จะทำตามการเปลี่ยนเส้นทางใด ๆ ที่คุณอาจมีการตั้งค่า เครื่องมือนี้จะช่วยให้คุณตรวจสอบว่าการเปลี่ยนเส้นทางที่คุณได้สร้างเป็นเครื่องมือค้นหามิตร

Link Price Calculator ลิงค์คำนวณราคา

เครื่องมือนี้จะช่วยให้คุณให้บริการ SEO โดยการกำหนดปริมาณที่เหมาะสมที่คุณควรจะจ่ายเงิน (หรือชาร์จ) ต่อเดือนสำหรับการเชื่อมโยงข้อความ (โฆษณา) ใน URL ที่ระบุ

Reciprocal Link Check ตรวจสอบการเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน

เครื่องมือนี้จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าพันธมิตรลิงค์ของคุณมีการเชื่อมโยงกลับไปยังเว็บไซต์ของคุณ นอกจากนี้ยังกำหนดยึดข้อความที่ใช้โดยพันธมิตรลิงค์ของคุณที่จะเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ของคุณ

Cloaking Checker การปิดบังตรวจสอบ

เครื่องมือนี้พยายามที่จะตรวจสอบว่าเว็บไซต์เป็น 'ซ่อน' มันเป็นเนื้อหาสำหรับเครื่องมือค้นหา

Domain Age Tool เครื่องมือโดเมนอายุ

โดเมนเก่าอาจได้รับขอบเล็กน้อยในการจัดอันดับของเครื่องมือค้นหา เครื่องมือนี้จะแสดงอายุโดยประมาณของเว็บไซต์บนอินเทอร์เน็ตและช่วยให้คุณดูว่าเว็บไซต์มองเมื่อแรกเริ่ม นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณหาอายุของโดเมนคู่แข่งของคุณ

Keyword Suggestions Tool

เครื่องมือนี้จะช่วยให้คุณตรวจสอบคำหลักที่เกี่ยวข้องและเป็นที่นิยมที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของคุณ

Website Keyword Suggestions

เครื่องมือนี้พยายามที่จะกำหนดรูปแบบของเว็บไซต์ของคุณและให้คำแนะนำคำหลักพร้อมกับประมาณการการเข้าชมคำหลัก

URL Rewriting Tool

นี้เป็นเครื่องมือ Search Engine Optimisation ช่วยให้คุณแปลง URL ที่เป็นแบบไดนามิกคงมอง URL ที่ HTML

Keyword-Rich Domain Suggestion Tool

มีคำหลักที่อุดมชื่อโดเมนเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับ Search Engine Optimization เครื่องมือนี้จะขอแนะนำให้คำชื่อโดเมนที่อุดมไปด้วย

Alexa Rank Checker

นี้เป็นเครื่องมือ SEO ช่วยให้คุณสามารถที่จะได้รับการจัดอันดับการจราจรของ Alexa ของคุณและคู่แข่งของคุณ

Backlink Tracker Pro

เครื่องมือฟรีในการตรวจสอบการชำระเงิน / การแลกเปลี่ยนเชื่อมโยง ได้รับการแจ้งเตือนเมื่อย้อนกลับของคุณได้ถูกลบออกหรือแปลงการเชื่อมโยง nofollow

Traffic คืออะไร

22:37 |

Traffic คือ จำนวนคนเข้าเว็บ หรือที่เรียกกันว่า Unique IP Traffic มีผลต่อการจัดอันดับบนผลการค้นหาของ Google Search ทุกวันนี้กูเกิ้ลได้ให้ความสนใจในเรื่องการจัดอันดับด้วยคะแนนจากการเข้าอ่านบทความ หรือ การตรวจสอบคุณภาพของเว็บผ่านการตรวจสอบ ค่าของอัตราการตีกลับ Bounce Rate หากค่าอัตราการติกลับสูง แสดงว่า คนเปิดหน้าเว็บแล้วรีบปิดหน้านั้นทันทีทันใด หากค่าของอัตราการตีกลับต่ำ แสดงว่า คนเปิดหน้าเว็บแล้วหยุุดอ่านจนจบทความ หรือใช้เวลาอยู่ในหน้านั้นนานๆ ยิ่งหน้าไหนมีคนเข้าอ่านมากๆ ยิ่งส่งผลต่ออันดับให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยอาจไม่ต้องอาศัยแบ็คลิงค์ในการมาดันอันดับ เพราะบทความคุณภาพ และจำนวนคนเข้าอ่านเว็บมากๆ ช่วยทำให้ติดหน้าแรก Google ได้อย่างรวดเร็ว และติดอันดับยาวนาน

เทคนิคการปรับ On Page SEO ให้กับเว็บไซต์สนับสนุน Search Engine ให้มีประสิทธิภาพ ก่อนอื่นให้ทำการวิเคราะห์ Keyword หลัก และคีย์เวิร์ดรอง ของเว็บไซต์ เป็นอันดับแรก เพื่อที่เราจะสามารถเลือกใช้คีย์เวิร์ดตรงกับเนื้อหาภายในเว็บไซต์ครับ นอกจากนี้การวิเคราะห์คีย์เวิร์ดยังเป็นการทำให้เราทราบว่า คีย์นั้นมีการค้นหาเฉลี่ยนกี่ครั้งต่อเดือน ซึ่งจะทำให้เรารู้ว่า ควรปรับเว็บอย่างไรให้ถูกใจ Google รวมทั้งทราบจำนวน Backlinks ว่าควรใช้ปริมาณเท่าไหร่ ถึงจะติดอันดับบนผลการค้นหา ตามที่ต้องการ การปรับให้ Web มีเนื้อหาตรงกับความต้องการของระบบค้นหา จะต้องมีบทความที่ครบถ้วนเรื่องที่เกี่ยวข้องทั้งหมด อธิบายสาระสำคัญของบทความ ตลอดจนทำให้ผู้ค้นหาข้อมูลเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนั้นอย่างถ่องแท้ หากทำแบบนี้ได้ การทำอันดับบน Google Search ก็สามารถทำได้ไม่ยาก เพราะว่าเว็บของเรามีบทความที่คนชอบ ส่งผลให้มีจำนวนคนอ่านมากขึ้น ซึ่งทุกปัจจัยล้วนส่งผลต่อการทำ SEO ให้ติดหน้าแรก Google

วิธีการปรับ Off Page SEO เพื่อทำอันดับบน Google Search แม้ว่าทางเจ้าหน้าที่ของกูเกิ้ลจะออกมากล่าวว่า อีก 2-3 ปี ทาง Google จะยกเลิกการใช้ Backlink มาเป็นปัจจัยในการคำนวณให้คะแนนอันดับบนผลการค้นหา Search Engine Result Pages (SERPs) และในขณะนี้เราจะสังเกตุเห็น Web จำนวนมาก ติดอันดับต้นๆ ของผลการค้นหา โดยที่ไม่มี Off Page Link มาดันเพจนั้น การที่หน้าเว็บดังกล่าวติดหน้าแรกได้ มาจากจำนวนคนที่เข้ามาอ่านเป็นหลัก และค่าของอัตราการตีกลับ Bounce Rate มีค่าต่ำ คือ เวลาคนเข้ามาดูแล้วมีการใช้เวลาอยู่กับหน้านั้นนานๆ แสดงให้เห็นว่าบทความมีคุณภาพ ในส่วนของคะแนนจากแบ็คลิงค์ ยังคงมีความสำคัญอยู่ยุคปัจจุบัน และรวมถึงในอนาคตข้างหน้าด้วย การที่ Google บอกว่าจะไม่ใช้แบ็คลิงค์เป็นปัจจัยหลักในการจัดอันดับ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะยกเลิกการใช้งานทั้งหมด เพราะลิงค์จากเว็บไซต์คุณภาพมีบทความจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกัน และมีคีย์เวิร์ดหลักจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกัน หากได้ลิงค์ลักษณะแบบนี้ก็จะช่วยในเรื่องของอันดับได้เป็นอย่างดี การปรับ Off Page ไม่ใช่แค่อาศัยคุณภาพของลิงค์ที่เชื่อมโยงไปหาเว็บหลัก แต่ควรให้ความสำคัญของคนที่จะเข้ามาอ่านบทความ และเห็นลิงค์เหล่านี้ด้วย หากผู้อ่านมีการคลิกเข้าอ่านเว็บของเราจากเนื้อหาคุณภาพ เราก็จะได้รับค่า Refferal จาก Web คุณภาพ และแบ็คลิงค์ของเราก็ได้รับค่า Google Refferal อีกด้วย ทำให้คุณภาพมีการส่งต่อไปยังหน้าหลักของเรา สรุปว่า ปัจจัยด้าน Off Page เป็นสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญ และเน้นคุณภาพไม่น้อยไปกว่าหน้าเว็บหลักของเราครับ

วิธีที่ทำให้คนเข้ามาชมในเว็บของเราอีกทางหนึ่งที่

http://my2onlineincome.blogspot.com/p/free-web-submission.html

Facebook Social Network

01:18 |

Facebook เป็นอีกทางเลือกทีมีเครือข่ายสังคมที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และเป็นทางเลือกที่ใช้ในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารได้เป็นอย่างดี ผู้ทำ Internet Marketing เองก็พยายามใช้ช่องทางนี้ในการโฆษณาสินค้าต่างๆ นักทำ SEO (Search Engine Optimization) ต่างก็รู้ดีว่าการทำ SEO (Search Engine Optimization) ในยุคปัจจุบันจะคำนึงถึงเพียง Search engine อย่างเดียวคงไม่ได้อีกต่อไป จะต้องหาทางเชื่อมโยง Social Network ชนิดนี้ให้ผสมกลมกลืนกับการทำ SEO ให้ได้

วิธีทำ Facebook Social Plugins Like Box บน Blogger

เริ่มต้นให้คุณ Log in ที่ Facebook เสียก่อน แล้วให้เข้าไปที่

https://developers.facebook.com/docs/plugins?locale=th_TH

เมื่อท่านเข้าหน้าเว็บแล้วให้กด Like Box

Facebook Page URL

<<<---ใส่ Facebook Page ของเรา

Width

<<----กำหนดค่าความกว้าง

Height

<<---กำหนดค่าความสูง

Color Scheme

light

Show Friends' Faces

Show Header

Show Posts

Show Border

Get Code <<-------- จากนั้นให้กด

เราก็จะได้ code ให้เลือกที่ IFRAME จากนั้น copy ไปวางที่ blogger

1.โดยเข้าไปเลือกแม่แบบ2.เพิ่ม Gadget
3.เลือก HTML/จาวาสคริปต์
4.วาง code ที่เรา copy มาได้เลยครับ

สำหรับหลายคนที่ใช้ Facebook เป็นแหล่งการส่งทราฟฟิคเข้าเว็บไซต์หรือเพื่อการโปรโมตสินค้าและบริการต่างๆ ความสำเร็จของการโพสนั้นขึ้นอยู่กับจำนวนคนของการมองเห็น ยิ่งคนเห็นเยอะมากเท่าไรก็ย่อมจะมีคนสนใจมากขึ้นเท่านั้น

Keyword

07:14 |

วิธีการหา keyword และการใส่ Title และใส่ keyword และ description ของเว็บไซต์เพื่อให้ search engine อ่านค่าไปแสดงในผลลัพธ์ของการค้นหาได้ง่ายๆ และติดอันดับ

Keyword คือการเริ่มต้นด้วยการแนะนำตัวเพื่อทำความรู้จักมักคุ้นกันก่อนนะครับ "Keyword" หรือ "คำหลัก" คือ คำที่เป็นหลักในเนื้อหาเว็บไซต์ที่เว็บมาสเตอร์เป็นผู้กำหนด หรือคำที่ลูกค้าต้องการใช้ในการค้นหาเว็บไซต์ที่่เกี่ยวข้องบน Search Engine ต่าง ๆ แต่ไม่ว่าจะเป็น Keyword ที่เว็บมาสเตอร์กำหนดหรือลูกค้าใช้ค้นหา ย่อมต้องมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงมาถึงเนื้อหาเรื่องเดียวกันได้

เทคนิคการ หา Keyword ให้กับการทำ Search Engine Marketing มีหลายวิธี ทั้งจะเป็นเทคนิคการคิดและสร้าง Keyword หรือ แหล่งที่คุณจะสามารถ หา Keyword ได้ ลองดูเลยละกันครับ

เทคนิคการหา Keyword จากที่อื่นๆ
จากลิ้งด้านล่างนี้เป็นการหา Keyword คำหลักโดยเราต้องสมัคร adwords ก่อน
https://adwords.google.co.th/KeywordPlanner

หา Keyword ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า

ค้นหาความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า ว่าเมื่อเค้าจะหาสินค้าหรือบริการ "เค้าจะค้นด้วยคำว่าอะไร" แล้วค่อยเอา Keyword ทีได้ไปขยายต่อ

คิด เพิ่มคำศัพท์ให้มากขึ้น จากคำเดิม เช่นเปลี่ยนรูปคำศัพท์เป็นเอกพจน์พหูพจน์ คำศัพท์ที่สะกดผิด หรือใช้การผสมผสาน Keyword (แต่ต้องดูว่าน่าจะมีคนคลิก หรือใช้เครื่องมือช่วยเช็ก)

หาคู่แข่งจาก Search Result (Google, Yahoo, MSN) หรือ ดูหน้าเว็บเค้า ไป view source หรือวิเคราะห์ ดูว่าเค้ามี keyword อะไรบ้าง

ใช้ Niche Keyword (คำเฉพาะ) ก็เป็นสิ่งที่ได้ผลสูง และแข่งขันน้อย

1 Unique Keyword ต่อ 1 ads ดีที่สุด (สำหรับคนทำ Adwords) ซึ่งจำเป็นต้องใช้งานทั้ง Broad, Match and Phrase ถ้าถามว่า maximum keywords เท่าไรจึงจะดีสำหรับ 1 ads คำตอบก้อคือ 25 unique keywords ซึ่งถ้าใช้ทั้ง 3 แบบ ก้อจะเป็น 75 keywords

search รายชื่อบริษัท หริือ คู่แข่งเรามเป็น Keyword เลย

ใช้ระบบพื้นที่ หรือ เมืองเข้าไปร่วมกับ keyword จะช่วยทำให้ keyword ดูเฉพาะ และหลายหลายมากขึ้น

แหล่งที่จะ หา Keyword

1. ลองไป หาkeywordดูที่ Truehits.net - อัพเดท กันแบบวันต่อวัน

- http://truehits.net/trend/

- http://directory.truehits.net/keyword.php

2. หา keyword จาก Google

- http://www.google.com/sktool

- https://adwords.google.com/select/KeywordToolExternal

- คำนวนค่าใช้จ่ายต่อ Keyword (สำหรับ google adwords) https://adwords.google.com/select/TrafficEstimatorSandbox

- Google Suggestion - http://www.google.com/webhp?complete=1 ลองพิมพ์คำลงไปจะมีคำแนะนำออกมา

- วิเคราะห์แนวโน้มของ keywords - http://www.google.com/trends

- ใช้ระบบ Google Insight ในการวิเคราะห์ Keyword : http://www.google.co.th/insights/search

3. หาkeyword จากดิกชั่นนารี่

- http://dict.longdo.com ใส่ภาษาไทยกับที่ต้องการลงไป แล้วจะมีศัพท์ภาษาอังกฤษออกมา และก็คำไทยอื่นๆ อีกเพียบ

4. หา keyword จากแหล่งอื่นๆ

- http://freekeywords.wordtracker.com/

- โปรแกรมติดตั้งที่เครื่อง ใช้ค้นหา แนะนำ Keywords download ได้ที่ http://www.goodkeywords.com/

- เว็่บช่วยวิเคราะห์ Keyword คู่แข่ง http://www.keycompete.com

- http://www.submitshop.com/keywords/topkeywords.html

เทคนิคการใส่ Title และใส่ keyword และ description ของเว็บไซต์เพื่อให้ search engine อ่านค่าไปแสดงในผลลัพธ์ของการค้นหาได้ง่ายๆ และติดอันดับ

ก่อนอื่นเข้า login blogger เลือกที่แม่แบบ และกดที่แก้ไข html จากนั้นให้เลื่อนหา

<html>
<head>
<title> ตรงนี้ใส่หัวข้อของเว็บ </title>

<meta content='ตรงนี้ให้ใส่ Keywords เว็บของคุณโดยใส่เครื่องหมาย (,)แต่ละคำ' name='Keywords'/>
<meta content='ตรงนี้ใส่รายละเอียดของเว็บไซต์' name='Description'/>
<meta content='index,follow' name='robots'/>

เท่านี้ก็เรียบร้อยครับ

SEO คืออะไร

23:51 |

SEO คืออะไร

Search Engine Optimization (SEO) การทํา SEO คือ กระบวนการที่ทําให้เว็บไซต์ หรือ ชื่อเว็บไซต์ ปรากฏอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดของผลการค้นหาผ่าน เว็บเสิร์ชเอนจิน (Search Engine) เช่น Google.com, MSN.com, Yahoo.com, Sanook.com เป็นต้น ด้วย Search Keyword ที่เกี่ยวข้องกับ ธุรกิจ ข้อมูล เนื้อหา บทความ สินค้าและบริการ ที่นำเสนอผ่านเว็บไซต์ของเรา โดยรักษาให้อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดเสมอ (ปกติจะพยายามทําให้ติดหน้าแรก google) วิธีทํา SEO นั้นจะประกอบไปด้วย การปรับปรุง-เพิ่มคำสำคัญ (Keywords) ในหน้าเว็บไซต์ การปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ให้มีขนาดเล็กการใช้ meta tag และวิธีอื่นๆ ควบคู่กันไป

การเริ่มต้น ให้ได้ผลที่ดีที่สุดคือเรียนรู้ด้วยตนเองและลงมือทำมันอย่างตั้งใจเพราะต้องลองผิดลองถูกด้วยตนเองก่อนถึงจะรู้แจ้งเห็นจริงได้ เพราะการทำ SEO นั้นมีเทคนิคมากมาย บางเทคนิคใช้ได้ผลกับบางคีย์ บางเทคนิคก็อาจใช้ไม่ได้ผลกับบางคีย์ ผู้ที่ทำ SEO จึงต้องรู้จักปรับเปลี่ยนวิธีการทำเพื่อให้เข้ากับอัลกอริทึมใหม่ ๆ ของ Search Engine อยู่ วิธีที่เคยเรียนรู้มาหรือเคยทำได้ก็อาจใช้ได้และใช้ไม่ได้ ผู้รับทำ SEO มือเก๋าบางครั้งต้องปรับตัวหรือเลิกทำ SEO ไปเลยก็มี

ทำไมเราต้องทำ SEO ?

เพื่อให้เว็บไซต์ของเราได้รับการจัดลำดับ ในอันดับที่ดีขึ้น (ยิ่งเป็นอันดับที่ 1 ใน Keyword นั้น ๆ ด้วยยิ่งดี)

เพื่อทำให้เว็บไซต์เราสามารถขายสินค้าและบริการได้มากขึ้น (อันนี้เหมาะกับเว็บ e-Commerce และ e-Marketing ต่าง ๆ )

เพื่อเพิ่มจำนวนคนเข้าเว็บไซต์ และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้มีมากขึ้น

เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการโฆษณาเว็บไซต์ของเรา

เพื่อเป็นการพัฒนาเว็บไซต์ ให้เกิดการใช้งานโดยผู้ใช้ ไม่ใช่แค่เรากับเพื่อนเรา

เนื่องจากการค้นหาข้อมูลผ่าน Search Engine มีคนใช้ถึง 81% เราต้องทำให้คนรู้จัก เราให้ได้มากที่สุด

ถ้าคุณติดลำดับต้น ๆ ในหน้าแรกแล้วจะทำให้เกิดการคลิก และเข้าเว็บเรามากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เป็นการประหยัดเวลาระยะยาว (แต่ใช้เวลาทำนานไม่น้อยกว่า 6 เดือน)

เป็นวิธีการโปรโมทเว็บไซต์ ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับการโปรโมท

เว็บไซต์ ด้วยวิธีอื่น

ข้อดีของการทำ Search Engine Optimization (SEO)

ช่วยเพิ่มจำนวนคนเข้าเว็บของคุณ ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ การพบเห็นโดยผู้ซื้อจากทั่วทุกมุมโลก

ช่วยทำให้เว็บของคุณสามารถค้นหาได้ง่ายๆจากเว็บที่เป็น Search Engine ดังๆ เช่น Google.com ,Bing.com ,Yahoo.com

ช่วยให้ได้ลูกค้าตรงตามกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ

ช่วยให้เว็บของคุณจะเป็นที่รู้จักมากขึ้นทำให้เพิ่มโอกาสในการขาย

ช่วยให้ธุรกิจของคุณเหนือกว่าคู่แข่งในประเภทธุรกิจเดียวกัน

ช่วยเพิ่มช่องทางการตลาด โดยขยายตลาด และขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยไม่ถูกจำกัดด้วยพื้นที

ช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ด้วยการนำเสนอสินค้า บริการใหม่ให้แก่ลูกค้าเดิม หรือลูกค้าใหม่ของคุณได้อย่างรวดเร็ว

ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ

ถูกกว่าการทำโฆษณาแบบอื่นมาก เช่น การทำโฆษณาทางโทรทัศน์, วิทยุ และการ ทำ SEO นั้นเว็บไซต์ของท่านสามารถมีอันดับเหนือกว่าบริษัทใหญ่ๆ ได้ ไม่เหมือนโฆษณาทาง TV ที่บริษัทใหญ่ๆ ได้เปรียบทางด้านการลงทุน

ก่อนที่ท่านจะทำ seo จะต้องมีเว็บหรือ blog สมัครblogได้ที่

http://my2onlineincome.blogspot.com/p/blogger.html

วิธีทำ seo และเทคนิคการทำ SEO โปรโมทเว็บไซต์และ blog ให้ติดหน้าแรก Google

BLOGGER คืออะไร

Traffic คืออะไร

SEO คืออะไร

Adsense

Internet Marketing กลยุทธ์ SEO ที่ถูกต้อง

การยิงbacklink ใส่แฟนเพจบนFackbook

เทคนิค 75 วิธีโปรโมทเวบให้ได้ผล

SEO TOOLS เครื่องมือที่รวบรวมมาให้เว็บมาสเตอร์

Traffic คืออะไร

Facebook Social Network

วิธีทำ Facebook Social Plugins Like Box บน Blogger

Keyword

SEO คืออะไร

Recent Posts

Definition List

Pages

Popular Posts

BLOG ARCHIVE

Categories

Labels

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Followers